pro3

TOYOTA YARIS ATIV 1.2

 ​​​  

ยี่ห้อ : Toyota

รุ่น : YARIS ATIV (A/T)

 ราคา : วันละ 1,200 บาท

                            

HONDA City 1.0 Turbo

ยี่ห้อ : HONDA

รุ่น : City 1.0 Turbo (A/T)

ราคา : วันละ 1,000 บาท

 

 

 

 

TOYOTA  Vios 1.5 

ยี่ห้อ : TOYOTA

รุ่น :  Vios

ราคา : วันละ 900 บาท

ลานนามีโชค…รถเช่า-คาร์แคร์ นายแน่มาก…บริการ 24 ชั่วโมง

คนที่คิดอยากจะทำ “ธุรกิจรถเช่า”…ดูเผินๆแล้วมันเหมือนเป็นเรื่อง ง่ายๆ หมูๆ!!!

 

แต่หากได้มีโอกาสได้คุยกับคนทำธุรกิจรถเช่าแล้ว และจะได้รู้ลึกๆว่ามันไม่ใช่ง่ายเหมือนเรื่องปอกกล้วยเข้าปาก ปัญหามีสารพัดเรื่องที่ต้องคอยปรับปรุงแก้ไข ไปจนถึงเรื่องใหญ่ที่บางแห่งถึงต้องม้วนกิจการลงไปเลย

อย่างปัญหาอาชญากรรมที่พวกมิจฉาชีพ…เช่ารถแล้วเชิด นำไปขายต่อประเทศเพื่อนบ้าน หรือไม่ก็เรียกเอาค่าไถ่รถคืน!!

นั่นเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานานแล้ว และก็ยังมีต่อเนื่องกันไปอีกเรื่อยๆและวิธีการก็แยบยลแตกต่างกันไปกับความเจ้าเล่ห์ของพวกมิจฉาชีพ ที่เริ่มตั้งแต่ใช้บัตรประชาชนปลอม หรือเอกสารปลอมอย่างอื่นๆมาเช่าและก่อพฤติการณ์ที่สร้างความเสียหายใหญ่หลวงให้กับธุรกิจรถเช่า

นอกจากปัญหาเหล่านี้แล้ว การบริการก็เป็นหัวใจใน “ธุรกิจรถเช่า”…และเรื่องนี้จะแข่งขันกันสูง!!

ได้คุยกับหนุ่มใหญ่ที่เป็นน้องใหม่มาแรงกับเรื่อง “ธุรกิจรถเช่า” เพียงไม่กี่ปีผงาดอยู่แถวหน้าของเมืองเชียงใหม่ เขียนไปถึงเขาคนนี้ “พีรพัฒน์ พุฒินาถสุวรรณ” วันนั้นเขียนถึงเรื่องกิจการที่เขาดำเนินอยู่ “ลานนา คาร์แคร์” ที่แหวกตลาดไม่เหมือนใครด้วยการเปิดดูแลล้างทำความสะอาดรถตั้งแต่เช้า ไปปิดบริการเอาเที่ยงคืนเป็นเจ้าแรกของเชียงใหม่ แถมใจถึงอีกด้วย หากท่านหนีบหนังสือพิมพ์เชียงใหม่นิวส์ติดไปด้วย ลดค่าดูแลรถให้อีกถึง 20%

คุยกับเขาต่อกับธุรกิจที่ดำเนินอยู่ “รถเช่าเชียงใหม่ ลานนามีโชค รถเช่า-คาร์แคร์” เป็นธุรกิจรถเช่ารายวัน-รายเดือน ที่เขาบอกไว้ว่างานบริการต้องให้ลูกค้าพึงพอใจ รถมีสภาพพร้อมใช้งานนับร้อยคัน ทั้งรถตู้-รถเก๋ง-รถแวน-รถกะบะ ที่นี่เขามีพร้อมและมีอู่สำหรับซ่อมรถและดูแลรถทุกคันหลังจากใช้งานให้อยู่ในสภาพเต็มร้อย ผู้เช่ารถไปใช้หมดห่วงได้ในสมรรถภาพของรถไม่ว่าจะเดินทางใกล้หรือเดินทางไกล งานด้านบริการที่นี่เขาพร้อมแค่ไหนดูเอาได้จาก

เป็นแห่งเดียวที่เปิดบริการ “คาร์แคร์” ดูแลความสะอาดหมดจดของรถแบบ 24 ชั่วโมง….ว่างเวลาไหนเลี้ยวรถเข้าไปได้เลย เปิดบริการอยู่ถนนมหิดลตรงข้ามกับเชียงใหม่แลนด์!!!

เครดิต เชียงใหม่นิวส์ : http://www.chiangmainews.co.th/page/archives/549038

ชมสวนฤดูฝน ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ เชียงใหม่

1 - 31 สิงหาคม 2559 แอ่วเหนือ...ไม่กลัวฝน...ชมปทุมมา 40 สายพันธุ์...บานสะพรั่งนับแสนดอก ในงานชมสวนฤดูฝน (Rainy Season) ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่

ปทุมมา..ดอกไม้แห่งฤดูฝนด้วยความสวยงามอย่างมีเอกลักษณ์ ลักษณะคล้ายดอกทิวลิป จนได้รับการขนานนามว่า ทิวลิปแห่งสยาม (Siam Tulip)” และเป็นไม้ดอกที่มีการส่งออกเป็นอันดับ 2 รองจากกล้วยไม้ นับว่าเป็นไม้ดอกล้ำค่าอีกชนิดหนึ่งของประเทศไทยที่ควรอนุรักษ์ไว้ และในฐานะที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์ เป็นอุทยานแห่งการเรียนรู้ด้านพรรณไม้และความหลากหลายทางชีวภาพ จึงได้รวบรวมสายพันธุ์ปทุมมา จำนวน 40 สายพันธุ์ อาทิ เชียงใหม่พิงค์ เรดเชิ้ต เชียงรายสโนว์ ทับทิมสยาม ไข่มุกสยาม ลัดดาวัลย์ สโนว์ไวท์ ยูคิ มรกต ช็อคโกแลต ซากุระ บิ๊กเรด ทวิสเตอร์ แดงดอยตุง บ้านไร่สวีท บ้านไร่เบอร์กันดี้ CMU มิราเคิล CMU Sweet lady นีกาตะ Golden Reign ฯลฯ โดยได้เริ่มเพาะหัวพันธุ์ปทุมมา จำนวน 30 สายพันธุ์ตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา และได้นำหัวพันธุ์ปทุมมาจากสถานีเกษตรหลวงปางดะ จำนวน 3 สายพันธุ์ อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนหัวพันธุ์ปทุมมา จาก ศูนย์บริการพัฒนาขยายพันธุ์ไม้ดอกไม้ผลบ้านไร่ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเชียงใหม่ จำนวนอีก 7 สายพันธุ์ เพื่อนำมาจัดแสดงในงาน "ชมสวนฤดูฝน (Rainy Season)" ให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมตลอดช่วงเดือนสิงหาคม 2559

     ภายในงานทุกท่านจะได้ชมสวนหลากสีที่ประดับด้วยปทุมมากว่าแสนดอก ซึ่งในปีนี้นักท่องเที่ยวจะได้ชมความสวยงามของปทุมมาตั้งแต่ด้านหน้าประตูทางเข้าหลัก และตามสวนต่างๆ อาทิ สวนต้อนรับ ซึ่งเป็นสวนแรกที่นักท่องเที่ยวเดินเข้ามาก็จะได้ชมปทุมมาที่จัดในรูปแบบสวนหย่อม โดยได้จำแนกปทุมมาแต่ละสายพันธุ์ไว้อย่างชัดเจน ต่อด้วยสวนอังกฤษที่มีการจัดแสดงปทุมมาเป็นแนวยาวคล้ายทุ่งปทุมมา พร้อมทิวทัศน์ที่เด่นสง่าอย่างหอคำหลวงที่โอบล้อมด้วยภูเขาที่เขียวขจี ผนวกกับความงดงามของปทุมมารอบหอคำหลวงที่ใครได้เห็นเป็นต้องประทับใจกันทุกคน ทั้งนี้ ยังจะได้เพลิดเพลินกับการแสดงดนตรี และสนุกกับกิจกรรม เช็คอิน..ฟินหน้าฝนพร้อมลุ้นรับของรางวัลมากมาย

     นอกจากชมความสวยงามของปทุมมาแล้วยังจะได้ร่วมกิจกรรมเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดยในช่วงเช้าของวันที่ 12 สิงหาคม 2559 ทุกท่านจะได้ร่วมกิจกรรม ปลูกข้าววันแม่ พร้อมรับพันธุ์ข้าวพระราชทานฯ ณ สวนเกษตรทฤษฎีใหม่ และในช่วงเวลา 6 โมงเย็น จะมีพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพร และชมพลุเฉลิมพระเกียรติ ณ บริเวณหน้าหอคำหลวง ทั้งนี้ ยังมีกิจกรรม เส้นทางสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในอุทยานหลวงราชพฤกษ์เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อาทิ พระพุทธรูปสมถวิปัสนากรรมฐาน 2 องค์ ที่ได้จากการหลอมใบโพธิ์ทองแดงที่พสกนิกรเขียนคำถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในช่วงการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ 2549 ประดิษฐานอยู่บริเวณลานต้นโพธิ์แห่งความจงรักภักดี พระอุปคุต ซึ่งได้รับการยกย่องว่ามีความเป็นเลิศทางอิทธิฤทธิ์ ปกป้องคุ้มครองภัย ณ จุดชมวิวหอคำหลวง (ด้านข้างสวนประเทศจีน) พระศากยมุนี ได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก กษัตริย์ภูฏาน ณ สวนประเทศภูฏาน และองค์พระพิฆเนศ ปางปัญจมุข หรือ ปางห้าเศียรสุดยอดของเทวรูปพระพิฆเนศ ถือเป็นสุดยอดแห่งปางทั้งปวงแห่งพระคเณศ ณ สวนประเทศอินเดีย

     พิเศษสุด...สำหรับนักท่องเที่ยวที่แสดงหางบัตรชมภาพยนตร์ เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ ทุกเรื่องและทุกรอบฉาย ระยะเวลาตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2559 เป็นต้นไป รับส่วนลด 30% สำหรับค่าเข้าชมสวน หรือแสดงบอร์ดดิ้งพาสของสายการบินแอร์เอเชีย ระยะเวลาตั้งแต่ 20 มิถุนายน 2559 เป็นต้นไป รับส่วนลดค่าเข้าชมสวน 50% (สำหรับ 50 ท่านแรก นำบอร์ดดิ้งพาสของสายการบินแอร์เอเชียมาแลกรับร่มสวยๆ ได้ฟรี!) สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 053-114110-5

Dutch Farm (ดัชฟาร์ม เชียงใหม่)

เปิดประสบการณ์ในการท่องเที่ยวฟาร์มที่ไม่เหมือนใคร ใกล้ชิดธรรมชาติและสัตว์ต่างๆ เช่น ม้าแคระ แกะ กระต่าย สัตว์เลี้ยงทุกตัวสามารถสัมผัสได้โดยไม่มีคอกมาขวางกั้นเหมือนกับที่ท่านเคยไปเที่ยวสวนสัตว์ทั่วไป รับรองได้ว่าเมื่อท่านได้เดินทางมาเที่ยว "ดัชฟาร์มเชียงใหม่" ท่านจะได้ประสบการณ์ที่แปลกใหม่ที่ไม่รู้ลืมในความน่ารัก ความใกล้ชิด ความผูกพันของสัตว์เลี้ยงที่มีต่อตัวท่านอย่างแน่นอน นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมอื่นๆอีกมากมาย เช่น ปั่นจักรยาน สนามฟุตบอล ร้านกาแฟ เป็นต้น พบกับการท่องเที่ยวสไตล์ฟาร์มชนบทได้ที่แม่ออน จังหวัดเชียงใหม่
บัตรเข้าชม 
สำหรับนักท่องเที่ยวคนไทย ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 30 บาท
สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 30 บาท
หมายเหตุ : เด็กส่วนสูงไม่เกิน 110 cm เข้าชมฟรี!

การเดินทาง อยู่บนถนนสายสันกำแพง-แม่ออน (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1317 หลักกิโลเมตรที่ 20 )ก่อนถึงแยกน้ำพุร้อน 10 กิโลเมตร
เปิดบริการทุกวัน 09:00 - 18:00 น.
ติดต่อสอบถาม โทร.064-001-0014

ขึ้นดอยที่เชียงใหม่ ต้องใช้รถสเปคไหนถึงจะเหมาะ?

สเปครถยนต์ที่เหมาะสำหรับการขับขึ้นดอยไปเชียงใหม่

 

      เมื่อไปเชียงใหม่ สถานที่ที่คนนิยมไปเที่ยวกันก็คงจะหนีไม่พ้นดอย หรือภูเขาต่างๆ เพราะเมืองเชียงใหม่ก็จัดว่าเป็นเมืองทางภาคเหนือที่มีธรรมชาติบนดอยที่สวยงามอยู่แล้ว แต่ปัญหาที่ตามมาเลยของการขึ้นดอยก็คือเรื่องสมรรถนะของรถยนต์ที่จะพาเราขึ้นไป เพราะด้วยสภาพภูมิประเทศที่เป็นทางลาดชัน อาจจะทำให้ใครหลายคนเกิดความสงสัยขึ้นมาได้ ว่าควรเอารถแบบไหนขึ้นไปดี ซึ่งในบทความนี้เรามีคำตอบมาฝากกัน

      ก่อนอื่นเลยต้องแยกระดับความยากง่าย และความลาดชันของดอยที่จะขึ้นก่อน โดยระดับแรกนั้น เป็นดอยที่ไม่สูงชันไม่มาก สามารถขับรถขึ้นไปได้ง่ายๆ เช่น ดอยสุเทพ หรือดอยปุย ที่เราสามารถใช้รถประเภทไหนขับขึ้นไปได้ทั้งนั้น ไม่ต้องกังวลเรื่องสมรรถนะของตัวรถมาก เพราะแม้แต่มอเตอร์ไซค์ก็ยังสามารถขึ้นดอยพวกนี้ได้เลย ซึ่งความง่ายของการขึ้นดอยประเภทนี้นั้น ทำให้ระหว่างทางผู้โดยสารสามารถเล่นคาสิโนของ w88thai ไปด้วยได้อย่างสบายๆ ไร้กังวล

     ระดับความยากต่อมาคือระดับกลางๆ ซึ่งมอเตอร์ไซค์ยังสามารถขึ้นไปได้อยู่ แต่ก็ถือว่าลำบากมาก และต้องมีความเชี่ยวชาญพอสมควร เช่น ดอยอินทนนท์ เพราะดอยเหล่านี้มักจะมีความสูงที่มาก และทางที่ลาดชัด แต่สภาพของทางก็ยังโอเคอยู่ ทำให้รถยนต์ที่จะสามารถขึ้นไปได้นั้นก็เกือบๆทุกรุ่นที่มีขายอยู่ทั่วไปตามท้องตลาด แม้แต่อีโค่คาร์ขนาดเล็กก็ยังสามารถขึ้นไปได้อยู่ แต่ก็ต้องตรวจเช็คสภาพรถให้ดีก่อนการเดินทาง และควรเตรียมความพร้อมของตัวรถไว้ให้ดีที่สุดนั่นเอง

         ระดับความยากแบบสุดท้าย คือระดับที่รถขนาดเล็กไม่สามารถขึ้นไปได้แน่นอน เพราะตัวดอยนั้นมีความลาดชันที่สูง และมีสภาพของผิวทางที่ไม่ค่อยเอื้ออำนวย ทำให้รถยนต์ที่ควรขึ้นไปนั้น ควรเป็นรถขับเคลื่อนแบบ 4x4 ที่รองรับการปีนป่ายที่ดีเยี่ยม อีกทั้งควรมีกำลังแรงม้าของตัวเครื่องที่สูง และสภาพของตัวรถที่พร้อม เพราะไม่งั้นอาจจะเกิดอันตรายได้ ซึ่งดอยในลักษณะนี้มักจะเป็นดอยที่ไม่ค่อยมีคนไปเที่ยวมากนัก เช่นทางฝั่งอมก๋อย เป็นต้น